5 May 2012

“Put simply, Australia is one of the best places in the world to live.”

เมื่อปักษ์ที่แล้ว น้องๆผู้ปกครองผู้อ่านทั้งหลายคงจะได้ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงของวีซ่านักเรียนกันบ้างแล้วนะคะ แต่ถึงวีซ่าจะยากแสนเข็ญ มีปัญหามากมายในช่วงนี้ก็ตาม ข่าวที่ลงไว้ในหน้าหนังสือพิมพ์ นิตยสาร และฉบับที่คุณหมอวีซ่าคัดมาให้อ่านกันนี้มาจาก Migration Alliance ซึ่งเป็นหน่วยงานสมาพันธ์มาตรฐานสูงของ migration agents industry ที่ได้พูดถึงแม้เศรษฐกิจโลกจะตกต่ำ ซ้ำภัยธรรมชาติที่เกิด ประเจิดกับปัญหามากมายกระจายไปทั่วโลกก็ตาม ออสเตรเลียก็ยังคงเป็นลำดับทางเลือกที่ติดอันดับประเทศ 1 ใน 3 ของโลกที่น่าอยู่ที่สุด ด้วยเศรษฐกิจที่มั่นคง ทรัพยากรธรรมชาติและเหมืองแร่ที่ขุดได้มากมายไม่รู้จักหมดสิ้น ประกอบกับ lifestyle ที่ easy going ของคนที่นี่ดั่งบทความที่คัดมาให้อ่านกันข้างล่างนี้

Australia ranked second out of desirable countries to live and work

Created on Thursday, 19 April 2012 02:14

Written by Editorial staff

A new industry survey has found that Australia has made the top three in terms of countries that people would move to for employment and lifestyle changes.

According to the Global Professionals on the Move 2012 survey conducted by recruiting firm Hydrogen Group, the country has maintained its allure despite uncertain economic markets.

The report shows that 9 per cent of respondents picked Australia as their destination of choice – edged out only by the US on 13 per cent.

This number two ranking is the result of a number of factors, according to the researchers, who highlighted the ongoing resource boom and high quality of life as the two main points for consideration.

The report states: “Overall our respondents named Australia as the second most desired place to live and work.

“It was chosen by 9 per cent, and, unsurprisingly given its wealth of natural resources, was the most popular choice for those in the oil and gas sector.”

“Put simply, Australia is one of the best places in the world to live.”

While the glowing words of praise seem to paint the nation as a haven for professionals seeking a better life, the report also found issues that prevented more international business being done.

As migration agents are aware, the Australian Taxation Office (ATO) will be doing away with the Living Away From Home Allowance (LAFHA) concessions for international travellers as of July 1 – a move which the report states could make the move “less accessible to overseas workers”.

Another point of concern for those looking to live and work in the country was found to be the stringent rules attached to employment-based visas.

However, the professor in charge of the research Raymond Madden explained that reforming these legal barriers would take time and dedication which could be “politically” difficult and that relaxing restrictions based on the sectors most in need could be a more viable alternative.

Mr Madden asserted: “Trying to implement a relaxation across the board would be almost impossible.”

That being said, the report went on to show that there was an increasing appreciation of what international travel could do for a professional’s career – with 86 per cent noting that it advanced their professional progression and 83 per cent finding that they experienced a boost in their salaries after a stint overseas.

(Source: Article from Migration Alliance Newsletter dated 19 April, 2012)

คุณหมอวีซ่าเชื่อว่า หลายๆคนเมื่อมาอาศัยอยู่ยังประเทศออสเตรเลีย บางคนก็ตกหลุมรักในสภาพความเป็นอยู่ อากาศที่บริสุทธิ์ ผู้คนที่เป็นมิตรและบรรยากาศสบายๆ ไม่เครียดมากจนเกินไปของประเทศออสเตรเลีย และก็อยากจะมีโอกาสได้ตั้งหลักแหล่งอยู่ที่นี่ได้อย่างถาวร บางคนเมื่อได้โอกาสมาเรียนที่นี่ แล้วก็คิดว่าทำงานเก็บเงินก่อนกลับบ้านดีกว่า หรือมีอีกหลายๆเหตุผลที่นักเรียนไทยส่วนใหญ่ต้องการจะอยู่ต่อที่นี่ แต่เนื่องจากสถานการณ์วีซ่าในปัจจุบันที่เข้มมากถึงมากที่สุด จนผู้ที่ได้วีซ่านักเรียนมาที่ออสเตรเลียในปัจจุบันพูดว่าเสมือนตนเองถูกรางวัลที่ 1 ล๊อตเตอรี่เลยก็ว่าได้ อย่างไรก็ตามคุณหมอวีซ่าเชื่อว่าถ้าหากใครมีเจตนาและความมุ่งมั่นอยากจะมาเรียนที่ออสเตรเลียอย่างแท้จริงแล้วละก็ วีซ่านักเรียนก็คงไม่ไกลเกินเอื้อมหรอกค่ะ

ฉบับนี้คุณหมอวีซ่าเลยขอเขียนเอาใจน้องๆทั้งหลายที่กำลังจะเลือกมาเรียนต่อที่ออสเตรเลีย หรือกำลังเรียนอยู่ที่นี่ หรือคนที่กำลังใกล้จะเรียนจบหลักสูตร แล้วกำลังมองหาลู่ทางในการอยู่ต่อที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นแบบถาวร หรือแบบชั่วคราวก็ตาม วันนี้คุณหมอวีซ่าได้เขียนรวบรวมลู่ทางวีซ่าต่างๆเป็น Options ที่อาจช่วยให้อยู่ในออสเตรเลียต่อได้มาฝากค่ะ

Possible Australian Visa Options for students after graduation:

มีวีซ่าทั้งหมด 6 ประเภทด้วยกันที่อาจจะช่วยให้ผู้อ่านทั้งหลายมีโอกาสในการอยู่ต่อยังประเทศออสเตรเลียโดยไม่ต้องต่อวีซ่านักเรียนไปเรื่อยๆ ซึ่งสามารถจำแนกได้เป็นแบบชั่วคราวและถาวรค่ะ

แบบแรกที่จะกล่าวถึงนั้นคือ แบบชั่วคราว

1. Graduate Skilled Visa (sc485)

วีซ่า sc485 นี้คุณหมอวีซ่าเคยกล่าวถึงไปหลายรอบแล้ว แต่ก็เป็นวีซ่าที่เหมาะกับนักเรียนในระดับปริญญา หรือในระดับสาขาอาชีพมากที่สุดที่อนุญาตให้ทำงานและอยู่ต่อหลังเรียนจบได้ถึง 18 เดือน แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องยื่นสมัครหลังจากเรียนจบภายใน 6 เดือน และวีซ่าตัวนี้นั้นสามารถสมัครได้ถึงสิ้นปีนี้ คุณสมบัติส่วนใหญ่ของคนที่สมัครวีซ่านี้ได้จะต้องยื่นสมัครอาชีพ (nominate occupation) ที่มีอยู่ใน SOL list – schedule 1 (https://www.immi.gov.au/skilled/_pdf/sol-schedule1.pdf) เพราะฉะนั้นใช่ว่าทุกอาชีพจะสามารถยื่นได้นะคะ ยกเว้นแต่ว่าผู้อ่านทั้งหลาย ก่อนวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2010 ซึ่งเป็นวันที่อิมมิเกรชั่นประกาศใช้ new SOL list นั่นหมายความว่า ทางอิมมิเกรชั่นตัดอาชีพที่ไม่สำคัญต่อตลาดแรงงานออสเตรเลียออกไป ถ้าหากน้องๆคนไหนก่อนวันที่ 8 กุมภาพันธ์ถือวีซ่านักเรียนอยู่ ก็มีโอกาสที่จะสมัคร 485 โดยใช้อาชีพใน ลิสต์เก่าได้ เพราะฉะนั้นใครที่ต้องการจะทำงานในออสเตรเลียก่อนที่จะกลับบ้านกันแล้วละก็วีซ่าตัวนี้นับว่าเป็นวีซ่าที่เหมาะทีเดียวเลยล่ะค่ะ เพราะนับจากปี 2013 เป็นต้นไป 485 ก็จะหมดไป และจะมีวีซ่าตัวใหม่เข้ามาแทน เพราะฉะนั้นใครที่กำลังมองหาลู่ทางต่อ ก็ต้องรีบมาพบพี่ๆที่ CP International ยื่นให้แล้วละค่ะ

2. Post-Study Work Arrangements

เป็นวีซ่าที่อนุญาตให้นักเรียนสามารถอยู่ต่อออสเตรเลียได้หลังจากเรียนจบ ซึ่งเป็นวีซ่าสำหรับนักเรียนที่เรียนในระดับปริญญาเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นปริญญาตรี ปริญญาโท หรือปริญญาเอก มีโอกาสได้หาประสบการณ์การทำงานในออสเตรเลีย หรือจะหาโอกาสในการฝึกภาษาทำวิจัย ต่อไปได้ ถือเป็นวีซ่าที่จะมาแทนที่ sc 485 ในปี 2013 ค่ะ
กฎของการถือวีซ่าตัวนี้ นักเรียนจะต้องเรียนในออสเตรเลียเป็นเวลา 2 ปีการศึกษา ถึงจะมีโอกาสในการขอวีซ่าตัวนี้ได้ โดยเฉพาะสำหรับใครที่เรียนในระดับปริญญาเอก มีโอกาสในการอยู่ต่อได้ถึง 4 ปีเลยนะคะ แล้วแถมข้อดีของวีซ่าตัวนี้ก็คือผู้สมัครทั้งหลายไม่จำเป็นต้องยื่นสมัครอาชีพเหมือนกับวีซ่า sc485 เพราะถือว่าทางออสเตรเลียเปิดโอกาสให้กับนักเรียน นักศึกษาทั้งหลายได้มีโอกาสอยู่ต่อที่นี่ค่ะ

3. Temporary Business (Long Stay) – Standard Business Sponsorship (Subclass 457)/ Employer Nomination Scheme (sc121)

ตอนนี้เราพูดถึง graduate visas มา 2 ประเภทแล้ว วีซ่าตัวที่สามที่คุณหมอวีซ่าจะพูดถึงนี้เรียกว่าเป็นวีซ่าอินเทรนด์ประจำช่วงนี้เลยละค่ะ เป็นวีซ่าทำงานสำหรับนักเรียนทั้งหลายที่อยากจะข้ามฝั่งไปพีอาร์ วีซ่าทำงานหรือที่เรามักจะเรียกว่าวีซ่านายจ้างสปอนเซอร์ หรือ 457 เป็นวีซ่าที่เปิดโอกาสให้เราสามารถทำงานได้ที่นี่อยากถูกต้องตามกฎหมาย และได้รับค่าจ้างตามตลาดแรงงาน (market rate) และถ้าหากเราทำงานกับนายจ้างเดิมเป็นเวลา 2 ปี และถ้าหากนายจ้างอยากจะสปอนเซอร์ให้ทำงานและอยู่ที่นี่ถาวรก็สามารถทำได้ ซึ่งสามารถข้ามฝั่งไป ENS ได้ทันทีค่ะ สำหรับนักเรียน หรือสำหรับคนที่ถือ 485 อยู่และต้องการจะทำงานอยู่ต่อ ก็สามารถที่จะขอให้นายจ้างสปอนเซอร์เพื่อทำงานอยู่ต่อได้ คนไทยเรานับว่าเป็นคนมีฝีมือ ขยันและตั้งใจทำงาน ทำให้มีนายจ้างอยากจะสปอนเซอร์เรามากมาย นายจ้างเองก็ได้ลูกจ้างฝีมือดี และตัวลูกจ้างเองก็มีโอกาสในการทำงานที่ออสเตรเลีย เท่ากับว่าวินวินทั้งสองฝ่ายเลยค่ะ

วีซ่าอีก 3 ประเภทสุดท้ายที่คุณหมอวีซ่าจะกล่าวถึง ถือเป็นวีซ่าพีอาร์ที่อนุญาตให้เราอยู่ที่นี่ถาวร และมีโอกาสสมัครซิติเซ่นได้อีกในภายภาคหน้า

4. Skilled Independent Visa (sc885)/ SkillSelect

Skilled Independent Visa (sc885) เป็นวีซ่าที่คุณหมอวีซ่าเชื่อว่าเป็นที่คุ้นเคยของนักเรียนเราๆเป็นอย่างดี เป็นวีซ่าที่นักเรียนสามารถยื่นได้หลังจากเรียนจบ โดยผู้สมัครนั้นจะต้องมีอาชีพที่อยู่ใน SOL List เช่นเดียวกับผู้ที่สมัคร sc485 และจะต้องมีคะแนน 65 แต้ม (https://www.immi.gov.au/skilled/general-skilled-migration/pdf/points-test.pdf) ไม่ว่าจะมาจากอายุ การศึกษา IELTS ประสบการณ์การทำงาน เป็นต้น ถึงจะสามารถสมัครพีอาร์ได้ แต่นับจากวันที่ 1 กรกฎาคม 2012 ที่จะถึงนี้ ระบบ skilled PR ก็จะเปลี่ยนเป็น SkillSelect ซึ่งผู้ที่สมัครได้นั้นจะต้องยื่น EOI (Expression of Interest) เข้าไปในระบบ SkillSelect และจะต้องมีแต้มอย่างน้อย 65 คะแนนถึงจะมีโอกาสยื่น EOI ได้ และถ้าประสบความสำเร็จ ผู้สมัครก็จะได้รับจดหมายเชิญ (Invitation Letter) จากอิมมิเกรชั่นถึงจะสามารถพีอาร์ต่อไปได้ค่ะ ระบบ EOI นี้เป็นระบบที่ทางออสเตรเลียจำลองมาจากนิวซีแลนด์ เพราะฉะนั้นใครที่กำลังหาลู่ทางในการสมัครพีอาร์ก็ต้องรีบหน่อยแล้วละค่ะ ก่อนที่จะเปลี่ยนมาใช้ SkillSelect ในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ แต่นั้นก็ไม่ได้หมายความว่า SkillSelect จะแย่เสมอไปนะคะ เพราะว่าในระบบ SkillSelect นั้น นายจ้างจากที่ต่างๆก็มีโอกาสที่จะสปอนเซอร์เราเช่นเดียวกัน หรือแม้กระทั่งจากรัฐต่างๆ เพราะฉะนั้นก็ถือว่าโอกาสสองเด้งเลยละค่ะ

5. Established Business in Australia (sc845)

วีซ่า Established Business in Australia (sc845) เป็นวีซ่าสำหรับทำธุรกิจโดยเฉพาะ สำหรับใครก็ตามไม่ว่าจะถือวีซ่านักเรียน วีซ่า 485 หรือวีซ่าอะไรก็ตาม (ยกเว้นวีซ่าบริดจิ้ง) ที่กำลังเปิดธุรกิจอยู่ในออสเตรเลีย ไม่ว่าจะเป็นร้านนวด ร้านอาหาร หรือบริษัทต่างๆ และกำลังมองหาลู่ทางในการใช้ธุรกิจของตัวเองนั้นสปอนเซอร์ให้ได้พีอาร์เพื่อที่จะทำธุรกิจต่อไปที่นี่ วีซ่าตัวนี้ถือเป็นวีซ่าที่เหมาะสมที่สุดค่ะ โดยผู้สมัครวีซ่าตัวนี้จะต้องอาศัยอยู่ในออสเตรเลียอย่างน้อย 227 วันจาก 1 ปี มีผลประกอบการณ์ตามที่อิมมิเกรชั่นกำหนด และมีอสังหาริมทรัพย์อยู่ที่ออสเตรเลียด้วยไม่ว่าจะเป็นบ้าน หรือห้องให้เช่าก็ตาม และจะต้องมีแต้มอย่างน้อย 105 คะแนน ถึงจะสามารถสมัครวีซ่าตัวนี้ได้ (https://www.immi.gov.au/skilled/business/845/points-test.htm) ผู้อ่านท่านใดก็ตามที่กำลังสงสัยว่าธุรกิจของเราเข้าข่ายที่จะสปอนเซอร์เราได้มั้ยนั้น ต้องไม่พลาดมาร่วมงาน CP Sydney Autumn Education Expo ในวันที่ 12 พฤษภาคมนี้ค่ะ เพราะคุณหมอวีซ่าจะมาอธิบายถึงข้อกำหนดต่างๆในการทำวีซ่าตัวนี้กัน

6. Partner Visa (sc820/sc801)

Partner Visa ชื่อก็บอกอยู่แล้วนะคะว่าเป็นวีซ่าสำหรับคู่รัก ไม่ว่าจะเป็นต่างเพศหรือเพศเดียวกัน เมื่ออยู่ออสเตรเลียไปสักพัก แล้วก็ได้ไปตกหลุมรักกับหนุ่มหรือสาวชาวออสเตรเลีย และก็ต้องการจะอยู่กับแฟนของเราที่นี่ถาวร โดยให้แฟนหรือคู่ครองของเรา ไม่ว่าจะเป็นสามีหรือภรรยาที่เป็นซิติเซ่นหรือถือพีอาร์อยู่สปอนเซอร์วีซ่าให้เราสามารถอยู่ที่นี่ได้อย่างถาวร วีซ่าคู่ครองนั้นเป็นวีซ่า 2 stage ด้วยกัน 1. ถือทีอาร์ (Provision) 2. ถือพีอาร์ (Permanent) ในขั้นตอนแรกผู้สมัครจะต้องถือวีซ่าทีอาร์ไปก่อน 1 ปี และเมื่อครบเวลา 2 ปีนับจากยื่นใบสมัครก็จะได้รับจดหมายจากอิมมิเกรชั่นให้ส่งเอกสารเพิ่มเติม ซึ่งขั้นตอนนี้ก็จะเป็นขั้นตอนที่ได้พีอาร์ โดยจะต้องเก็บหลักฐานการกินอยู่เพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบการสมัครวีซ่าประเภทนี้ ถ้าใครที่วีซ่ากำลังหมดและอยากจะยื่นวีซ่าตัวนี้ในอนาคตก็ต้องเก็บหลักฐานกันแต่เนิ่นๆ นอกเหนือไปจากวีซ่า 457แล้ว วีซ่าคู่ครองถือเป็นวีซ่าที่ติดอันดับต้นๆในการทำพีอาร์ทีเดียวเลยล่ะค่ะ

วีซ่าที่กล่าวมาข้างต้นทั้งหมดถือเป็นวีซ่าทางเลือกที่มีความเป็นไปได้สำหรับทุกคนที่อยากจะหาโอกาสอยู่ในออสเตรเลียต่อ ไม่ว่าจะเป็นระยะสั้น ระยะยาว หรือถาวร ข้อมูลที่คุณหมอวีซ่าเอามาลงนั้นเป็นเพียงแค่ข้อมูลคร่าวๆ ถ้าหากผู้อ่านท่านใดที่ต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมของแต่ละวีซ่า ต้องไม่พลาดมาร่วมงานสัมมนา CP Sydney Autumn Expo 2012 ในวันที่ 12 พฤษภาคม 2012 ที่จะถึงนี้ ตั้งแต่เวลา 11:00 – 17:00 ที่ Ground floor, Labour Council Building, 383 Sussex Street, Sydney สำหรับใครที่กำลังหาคอร์สเรียน หรือต้องการจะสมัครเรียนกับมหาวิทยาลัยต่างๆ ก็ต้องไม่พลาดงานนี้เช่นกันค่ะ เพราะทางสถาบันใจดีไม่คิดค่าสมัครกับทุกคน นอกจากนี้ก็ยังสามารถมาร่วมรับฟังสัมมนาจากผู้เชี่ยวชาญทางด้านวีซ่า –คุณหมอวีซ่า และผู้เชี่ยวชาญในด้านอื่นๆ ที่ในงานนี้คุณหมอวีซ่าและทีมงานจะมาตอบข้อสังสัยทุกข้อเกี่ยวกับวีซ่าต่างๆ สำหรับใครที่กำลังหาโอกาสในการอยู่ต่อออสเตรเลีย มีคุณสมบัติครบถ้วนแต่ยังหานายจ้างไม่ได้ ก็ต้องไม่พลาดงานนี้เช่นเดียวกัน

ตารางเวลาสัมมนา:

  • 11.30-12.30 – อยาก สอบ IELTS ให้ได้ 7 – 8 – โดย Embassy CES
  • 12.30-13.30 – ทำอย่างไรวีซ่านักเรียนภายใต้ GTE ถึงจะผ่าน
  • 13.30 – 14.30 – ทำอย่างไรให้เป็นผู้ถูกเลือกใน SkillSelect PR visas
  • 14.30 – 15.30 – วิธีหางานดีๆหลังเรียนจบ
  • 15.30-16.30 – อยู่ต่อด้วยวีซ่าอะไรดีหลังเรียนจบ – คำแนะนำดีๆจากคุณหมอวีซ่า

นอกจากนี้ใครมีปัญหาในเรื่องของวีซ่า เรื่องเรียน หรือกำลังหาลู่ทางในการสมัครพีอาร์แล้วละก็ ทีมงานซีพีทุกคนก็จะมาให้คำปรึกษาฟรี แบบตัวต่อตัวในวันงานอีกด้วย ยิ่งกว่านั้นทางซีพี อินเตอร์ ยังใจดีแจกไม่อั้น สำหรับใครที่ลงทะเบียนก่อนวันงาน ร่วมชิงรางวัลพิเศษกับซีพี อินเตอร์ไม่ว่าจะ เป็น the new iPad ค่าบริการทางวีซ่า และในวันงานทุกท่านจะได้รับ CP Mystery Gift Bag อีกด้วย ก็ต้องมาลุ้นกันในงานนะคะว่าในกระเป๋านั้นจะมีของรางวัลอะไรบ้าง จากทีมงานของเราในวันงานรวมมูลค่าร่วม 5000 เหรียญ ค่ะ สนใจลงทะเบียนออนไลน์ cpinternational.com, โทรที 02-9267-8522 หรืออีเมล education@cpinternational.com แล้วอย่าลืมมาลงทะเบียนร่วมงานกันนะคะ แล้วพบกันในวันงานค่ะ

มีคำถามเกี่ยวกับการสมัครหรือสถานะวีซ่าออสเตรเลียของคุณ? ต้องการสมัครเพื่อศึกษาต่อ ทำงาน หรืออาศัยอยู่ในออสเตรเลีย? สามารถขอคำแนะนำจากทีมคุณหมอวีซ่าได้ที่: