16 April 2015

สวัสดีค่ะแฟนคลับคุณหมอวีซ่าทุกท่าน ผ่านพ้นกลับเทศกาลอีสเตอร์ไปไม่นาน ก็เข้าสู่เทศกาลปีใหม่ไทยหรือวันสงกรานต์กันอีกแล้ว สำหรับใครที่ตั้งแต่ปีใหม่ยังไม่ได้ทำตามปณิธานที่ตั้งไว้ ตอนนี้ก็ยังไม่สายอยู่นะคะ เข้าปีใหม่ไทย ก็ขอให้เริ่มต้นใหม่ ใครที่กลับไทยช่วงนี้ หรืออยู่เมืองไทย ก็ขอให้ท่องเที่ยวอย่างสนุกสนานและปลอดภัย อย่าลืมไปไหว้คุณพ่อคุณแม่ หรือญาติผู้ใหญ่ที่ถือเป็นพระภายในบ้านด้วยนะคะ สำหรับใครที่อยู่ออสเตรเลีย ก็อย่าลืมโทรไปหาคุณพ่อคุณแม่ กราบสวัสดีปีใหม่ท่านด้วยหล่ะ

ช่วงอีสเตอร์ที่ผ่านมา ก็ถือเป็นฤกษ์ดีสำหรับหนึ่งในสมาชิกที่ทั้งสวยทั้งเก่งของทีมงานประจำซีพี ซิดนีย์ นั่นก็คือคุณแนนซี่ ที่ปรึกษาด้านนักเรียนของซีพีฯ ได้เข้าสู่พิธีสมรสกับหนุุ่มฟงที่โชคดีได้หัวใจแนนซี่ไปครอบครอง ต้องถือว่าเป็นงานแต่งงานที่อบอุ่นและน่ารักมากๆ เจ้าสาวและเจ้าบ่าวก็สวย-หล่อสุดๆ คุณพ่อคุณแม่รวมถึงน้องชายและเพื่อนๆก็บินตรงมาจากเมืองไทย เพื่อมาร่วมงานนี้โดยเฉพาะ เป็นงานที่น่าประทับใจมากๆค่ะ พวกเราชาวซีพีฯทุกคนขอแสดงความยินดีด้วยเป็นอย่างยิ่ง

ว่าแล้วก็มาเข้าเรื่องวีซ่าของเรากันดีกว่านะคะ ตอนนี้อาจจะยังไม่มีเรื่องราวข่าวดังตูมตามในวงการวีซ่าอะไรมากมายจากอิมมิเกรชั่นมาเล่าสู่กันฟังมากมายนัก เพราะในวันที่ 18 เมษายนนี้ กำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่เกี่ยวกับกฎหมายอิมมิเกรชั่น โดยเฉพาะในเรื่องของวีซ่าทำงาน (sc457) วีซ่าธุรกิจ (sc188) วีซ่า Temporary graduate (sc485) และอื่นๆ สำหรับในฉบับหน้า คุณหมอวีซ่าถึงจะนำข่าวคราวเรื่องการเปลี่ยนแปลงมาบอกกันอีกครั้งนะคะ

ถึงแม้จะไม่มีข่าวคราวให้อัพเดทในฉบับนี้ แต่คุณหมอวีซ่าและทีมงานก็ยังมีลูกค้าเข้ามาปรึกษาในเรื่องของวีซ่าอยู่แทบตลอดเวลา โดยเฉพาะช่วงนี้มีลูกค้าหลายท่านเข้ามาปรึกษาในเรื่องของการจะนำลูกเข้ามาพ่วงตามวีซ่าที่ตนกำลังจะขอ หรือขออยู่แล้วครึ่งๆก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นวีซ่าลูก วีซ่าแต่งงาน วีซ่าติดตามและอื่นๆ ยกตัวอย่าง กรณีของ คุณเอ (นามสมมุติ) ที่ตอนแรกได้ยื่นวีซ่าแต่งงานไปโดยไม่ทราบว่าตนสามารถนำลูกมาพ่วงมาได้ เพราะลูกของคุณเอนั้นอายุเกิน 18 ปีแล้ว แต่เมื่อคุณเอได้เข้ามาปรึกษาคุณหมอวีซ่า สอบถามรายละเอียดทั้งแม่และลูกแล้ว ก็สรุปว่าสามารถนำลูกเข้ามาเป็นผู้ติดตามวีซ่าได้เลย ถึงแม้ว่าลูกของคุณเอนั้นจะอายุเกิน 18 ปีแล้ว แต่ว่ายังไม่เกิน 25 ปีและก็ได้เรียนหนังสือมาโดยตลอด คุณหมอวีซ่าเห็นช่องทางช่วยให้ลูกได้วีซ่าที่จะนำสู่ช่องทาง PR ตามแม่ได้ เพื่อลูกจะได้สิทธิ์เรียนฟรี ได้เมดิแคร์ และช่วยแม่ทำงานได้ด้วย โดยไม่ต้องถือวีซ่านักเรียนจ่ายค่าเทอมเป็นหมื่นๆทุกปี แถมโดนจำกัดสิทธิ์ชั่วโมงการทำงานอีกด้วย ก็เลยติดต่อไปต่อรองกับทางเจ้าหน้าที่เพื่อปรับเปลี่ยนขั้นตอนการยื่นวีซ่าให้อนุมัติพ่วงลูกทั้งๆที่เคสกำลังดำเนินอยู่กลางๆยังไม่เรียบร้อย เนื่องจากตอนที่คุณเอยื่นเคสครั้งแรก ได้ไปเดินเรื่องเอง และไม่ทราบกฎหมายว่าลูกของตนมีสิทธิ์พ่วงได้ จนลูกเกือบจะเสียโอกาสไปเลย แถมเอกสารที่จัดเข้าไปก็ไม่ครบ ดีที่ได้เจ้าหน้าที่ที่ค่อนข้างใจดี อลุ่มอล่วย ตอนนี้ก็เตรียมทำเอกสารยื่นเพิ่มเติมตามที่ทางอิมมิเกรชั่นขอมา เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ออกวีซ่าให้ทั้งคุณแม่และคุณลูกพร้อมกัน พอถึงเวลาพีอาร์ก็จะได้พีอาร์พร้อมๆกันไปเลย เห็นมั้ยคะ เพียงแค่เข้ามาปรึกษารับทราบข้อมูลที่ถูกต้อง ก็ถือเป็นการเปิดโอกาสให้กับคุณเอและลูกๆได้มาอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาในออสเตรเลีย ถ้าหากไม่เข้ามาปรึกษาแต่เนิ่นๆ ลูกก็อาจจะหมดโอกาสที่จะได้มาอยู่ด้วยกันกับคุณแม่ที่นี่

อีกเคสหนึ่งที่เพิ่งจะมาปรึกษากับคุณหมอวีซ่าสดๆร้อนๆ เคสนี้ก็ถือว่าเป็นอุทาหรณ์สำหรับทุกคนนะคะ น้องบี (นามสมมุติ) เดินทางกลับไปประเทศไทยเพื่อไปเยี่ยมครอบครัวในระหว่างที่ตัวเองกำลังรอวีซ่า partner (sc820) อยู่ ก่อนเดินทาง น้องบีได้ทำเรื่องขอ Bridging Visa B ซึ่งเป็นวีซ่าที่อนุญาตให้เดินทางออกนอกประเทศในระหว่างที่รอผลวีซ่าอยู่ในออสเตรเลีย (สำหรับผู้ที่ยื่นวีซ่าในออสเตรเลีย) ซึ่งใน Bridging Visa B ก็มีการระบุวันที่หมดอายุของวีซ่าไว้อย่างชัดเจน ถ้าหากเดินทางหลังจากวันที่วีซ่าหมดอายุ ก็จะไม่สามารถเข้าออสเตรเลียได้ น้องบีนั้นอ่านวันที่ผิดไปอย่างไรก็ไม่ทราบ พอถึงวันเดินทาง ก็ไปโดนกั๊กที่สนามบินสุวรรณภูมิ ขึ้นเครื่องไม่ได้ ทุกวันนี้ก็ยังติดอยู่ที่เมืองไทย และเอเจนท์ที่ทำวีซ่าให้ก็บอกเขาว่าไม่สามารถช่วยอะไรน้องบีได้ แค่บอกว่าต้องรอเจ้าหน้าที่ลูกเดียว ไม่มีทางแก้ไข น้องบีเลยโทรเข้ามาปรึกษากับคุณหมอวีซ่าว่าไม่สามารถเดินทางกลับมาออสเตรเลียได้ ด้วยสาเหตุที่ไม่ได้สังเกตวันที่หมดอายุของวีซ่าให้ดี ปรากฏว่าอยู่เกินวันหมดอายุของวีซ่า Bridging Visa B ทำให้ไม่สามารถเดินทางกลับเข้ามาในออสเตรเลีย ตรงนี้เป็นสิ่งสำคัญมากนะคะ ไม่ว่าท่านผู้อ่านจะยื่นวีซ่าด้วยตัวเองหรือกับทางเอเจนท์ ทุกครั้งที่ได้เอกสารมา จะต้องคอยอ่านและตรวจสอบข้อมูลทุกอย่างให้ถูกต้อง เช่นในกรณีนี้ควรจะตรวจสอบข้อมูลเรื่องวันหมดอายุวีซ่าให้ดีๆ สำหรับวีซ่าที่ยื่นไปที่ออสเตรเลียจะแกรนท์ก็แกรนท์ไม่ได้ เพราะตัวผู้สมัครไม่ได้อยู่ในออสเตรเลีย อาจจะทำเรื่องวีซ่าท่องเที่ยวกลับเข้ามา แต่ก็ไม่มีใครการันตีได้ว่าจะติดคอนดิชั่น No Further Stay หรือไม่ คุณหมอวีซ่าก็ได้ให้คำแนะนำและหาทางออกให้แฟนฝรั่งของน้องบีไปอย่างชัดเจนเรียบร้อย ก็หวังว่าน้องบีจะโชคดี ได้รีบกลับมาในออสเตรเลียเร็วๆนี้นะคะ

อีกเหตุการณ์หนี่งที่คุณหมอวีซ่าอยากนำมาบอกกล่าวไว้สอนใจ เป็นเรื่องราวของน้องซี (นามสมมุติ) น้องซีนั้นได้เรียนหนังสืออยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง เสร็จแล้วมีเหตุจำเป็นที่จะต้องเดินทางกลับไปประเทศไทย ในระหว่างที่เรียนอยู่ที่นี่ ก็ไม่รู้ว่าทางโรงเรียนได้แคนเซิล CoE ไปแล้วเรียบร้อย เพราะจะกลับมาในออสเตรเลียก็โดนเจ้าหน้าที่ๆสนามบินกักตัวไว้ เพราะมีประวัติว่าโดนแคนเซิล CoE มาก่อน ทางเจ้าหน้าที่ก็สัมภาษณ์ว่าทำไมมาออสเตรเลีย แล้วไปเรียนวันไหนบ้าง เรียนวิชาอะไร และอื่นๆ ซึ่งน้องซีก็ตอบได้ไม่ดีนัก แต่ทางเจ้าหน้าที่สนามบินก็ให้ผ่านเข้าประเทศตามปกติ โดยหลังจากนั้นทางอิมมิเกรชั่นได้ส่งจดหมายทำเรื่องแคนเซิลวีซ่านักเรียนตามมา อาจจะด้วยภาษาอังกฤษไม่ดี ทำให้น้องซีไม่ทราบว่าตัวเองถูกเรียกให้ไปพบในเรื่องของทางอิมมิเกรชั่นต้องการจะยกเลิกวีซ่านักเรียน เพราะโดนยกเลิกก็ยังเข้าใจว่าตัวเองมีวีซ่านักเรียน แถมเอเจนท์นักเรียนเก่าที่ใช้ยังแนะนำให้ไปเรียนตามปกติ จนกระทั่งวันหนึ่งจะไปสมัครงาน แล้วพบว่าวีซ่าตัวเองนั้นได้ถูกยกเลิกไปแล้ว ทางเอเจนท์นักเรียนก็ไม่ได้สนใจในเรื่องของวีซ่า สักแต่จะคอยเปลี่ยนที่เรียนใหม่ให้น้องเขาเลี้ยงไข้ไปเรื่อยๆเพื่อจะกินค่าคอมมิชชั่นไปเรื่อยๆโดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของนักเรียนต้องมาก่อนผลประโยชน์กระเป๋าตน เคสกว่าจะมาถึงมือคุณหมอวีซ่าก็สายไปเสียแล้ว เพราะว่าทางอิมมิเกรชั่นได้ตัดสินใจยกเลิกวีซ่าไปเรียบร้อยแล้วเพราะเหตุผลโรงเรียนเก่าแจ้งว่าไม่ไปเรียนหนังสือ attendance ไม่ถึง ส่วนตัวน้องนั้นก็ทำตามที่เอเจนท์คนนี้บอกให้ย้ายไปเรียนที่ใหม่เฉยเลยโดยไม่เคลียร์เรื่องกับโรงเรียนเก่าให้ ไม่แจ้งทางอิมฯเดินเรื่องให้ถูกต้องตามกฎหมายให้ อย่างนี้ อันตรายมากค่ะ เพราะวีซ่าโดนแคนเซิลได้ค่ะ ถ้าหากว่ามาหาคุณหมอวีซ่าแต่เนิ่นๆ เหตุการณ์อาจจะไม่ร้ายเท่านี้ก็เป็นได้ อยากเตือนว่า การที่เอเจนท์ขยันเปลี่ยนโรงเรียนให้นั้นต้องระวังให้มากๆ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่ดี และไม่ใช่เป็นวิธีการแก้ปัญหาที่ดีเลยนะคะ ปัจจุบันกฎหมายเกี่ยวกับวีซ่านักเรียนตามนโยบายของ Genuine Temporary Entry หรือ GTE นั้นเข้มงวดมากๆ เด็กโดนเพิกถอนและปฏิเสธวีซ่านักเรียนมามากต่อมากแล้วโดยไม่รู้ตัวด้วยซ้ำไป คล้ายๆกรณีของน้องซีนี่แหล่ะค่ะ very unfortunate นะคะ

หลายๆครั้ง ท่านผู้อ่านต้องเข้าใจว่าทนาย Immigration Lawyers หรือ Migration Agents ที่เก่งๆและมีประสบการณ์มามากนานปี ก็จะมีเวลาจำกัด เพราะมีเคสลูกค้าต้องดูแลเยอะ การจะขอนัดคุย นอกจากจะนัดยากแล้ว แถมมีค่าปรึกษาเรื่องอีก คุณหมอวีซ่าขอยกตัวอย่างจากสามเคสข้างต้นให้เห็นชัดๆเลยว่าคุ้มที่ได้เข้าไปคุยกับผู้ที่รู้กฎหมายจริงค่ะ เพราะหลายครั้งก็ช่วยอนาคตลูกค้าไว้ได้ จึงไม่อยากให้ท่านเป็นคนหนึ่งที่ “เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย” เสียซ้ำเสียซ้อนโดนหลอกซ้ำซาก ได้ข้อมูลผิดแล้วผิดเล่า พอมาถึงคุณหมอวีซ่า ก็มาบ่นว่าเสียตังไปกับที่อื่นมามากแล้ว บ้างก็จะให้ช่วยไปทวงเงินคืนให้หน่อย เอออย่างนี้ แล้วคุณหมอวีซ่าจะช่วยเขาอย่างไรดี แล้วน่าช่วยไหมเนี๊ยะ ? เห็นมั้ยคะว่าการเลือกใช้เอเจนท์ที่ดีย่อมส่งผลที่ดีต่อวีซ่า โดยเฉพาะควรตรวจดูว่าเอเจนท์ที่คุยด้วยนั้น มีใบทะเบียนปัจจุบันที่ขึ้นกับทาง MARA (Office of the Migration Agents Registration Authority) ที่ยังไม่หมดอายุหรือไม่ บ้างก็ไปเอาของคนอื่นมาใช้มาอ้างก็มี ท่านผู้อ่านก็ต้องรู้จักดูแลผลประโยชน์ของตนเอง อย่าไปเชื่อใครเชื่ออะไรง่ายๆ หัด research หาข้อมูลเองบ้างก็ดีค่ะ ก็เหมือนกับการไปหาหมอก็มีค่าหมอ ถ้าหากเราอยากจะไปหาหมอให้โรคหาย ก็ต้องเลือกไปหาหมอที่มีชื่อเสียงและน่าเชื่อถือที่เชี่ยวชาญในโรคที่เราเป็นอยู่ ไม่ใช่เพราะหมอคนนี้มีราคาถูกกว่า จริงไหมคะ เพราะสุดท้ายแล้วอาจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอีกมากมาย เพราะการแก้ปัญหาที่เอเจนท์คนเดิมก่อไว้นั้น ยากกว่าการได้เริ่มต้นทำเคสให้ถูกต้องเสียแต่แรกจริงๆค่ะ สำหรับวันนี้คุณหมอวีซ่าต้องลาไปก่อนเพราะมีเคสด่วนต้องยื่นภายในวันนี้ กลับมาพบกันใหม่ฉบับหน้านะคะ ซึ่งในคราวหน้าคุณหมอวีซ่าจะมาสรุปถึงกฎเกณฑ์วีซ่าบางตัวที่กำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงในเร็วๆนี้ค่ะ

สุขสันต์วันสงกรานต์ทุกๆคนค่ะ


ผู้บริหารCP International ร่วมทานอาหารกลางวันกับ The University of Sydney
ผู้บริหารCP International ร่วมทานอาหารกลางวันกับ The University of Sydney

ยินดีด้วยกับคุณแนนซี่ CP Sydney ที่เพิ่งแต่งงานไปเมื่อไม่นานนี้
ยินดีด้วยกับคุณแนนซี่ CP Sydney ที่เพิ่งแต่งงานไปเมื่อไม่นานนี้
มีคำถามเกี่ยวกับการสมัครหรือสถานะวีซ่าออสเตรเลียของคุณ? ต้องการสมัครเพื่อศึกษาต่อ ทำงาน หรืออาศัยอยู่ในออสเตรเลีย? สามารถขอคำแนะนำจากทีมคุณหมอวีซ่าได้ที่: