14 January 2013

ปีใหม่ วันใหม่ คุณหมอวีซ่าประทับใจกับรูปแสงตะวันแรกของปี 2013 ที่เพื่อนร่วมงานที่ CP Bangkok Line มาให้ดู  สวยงามมาก และเป็นสัญญลักษณ์ที่ดีของการเริ่มต้นที่ดีของปีใหม่ ทุกๆสิ้นปีของการทำงานในสาย professional ที่เป็นที่ปรึกษาด้านวีซ่ามืออาชีพ หรือที่เมืองออสซี่ตั้งชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า  “Registered Migration Agent หรือย่อว่า RMA” มากว่า 15 ปีนั้น คุณหมอวีซ่ามักจะตั้งเป้าหมายสำหรับปีใหม่ว่าเราจะ achieve อะไรกันบ้างในปีใหม่ และพยายามเดินไปให้ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ หากมีโอกาสย้อนเวลากลับไป คุณหมอวีซ่าก็อยากจะมีโอกาสทำงานทางด้านบริการวีซ่าและการศึกษาเร็วขึ้นกว่านี้ เพราะยิ่งทำ ใจก็ยิ่งรักในงานสายนี้ ว่าไปแล้วก็ทำให้คิดถึงคำทำนายของอาจารย์ชาวอินเดียท่านหนึ่งเมื่อสมัย 20 กว่าปีผ่านมาแล้วที่จู่ๆก็มาทักคุณหมอวีซ่า โดยอาจารย์พูดเป็นภาษาอังกฤษว่า “ฉันไม่ทราบว่าคุณทำอะชีพอะไร แต่พระองค์ที่ดูแลคุณนั้นเศียรเป็นพระ องค์เป็นนาค ท่านจะนำ illegal people มาให้คุณเต็มไปหมด และคุณก็จะมีโอกาสช่วยเหลือคนเหล่านั้น เปลี่ยนหินให้เป็นเพชร ดวงคุณเปรียบเสมือนเปลวไฟที่ดึงคนขึ้น นำเขาจากแดนทุกข์สู่ไปแดนสุขาวดี คนเหล่านี้นอกจากจะนำเงินนำทองมาให้คุณมากมายแล้ว ยังเป็นเพื่อนที่ดีกับคุณไปตลอดชีวิต…”  คิดถึงเรื่องนี้แล้วก็ยังขนลุกนะคะ คุณหมอวีซ่าไม่เคยคิดว่าจะได้มายุ่งเกี่ยวกับสายงานด้านนี้เลยแม้แต่เล็กน้อย สมัยก่อนจบโทมาจาก UNSW ก็ไปทำงานให้ธนาคารก่อน พอมีลูก ก็เลี้ยงลูกไปพลาง ทำงาน  part-time เป็นล่าม community interpreter ช่วยไปแปลความในศาลบ้าง แปลการสอบใบขับขี่ที่ RTA หรือไปตามสถานราชการ โรงพยาบาล สถานสงเคาะห์บ้าง เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่คนไทยในต่างแดนมามากต่อมาก สมัยนั้นลูกยังเล็ก ความที่เป็นคุณแม่ ก็คิดว่าเราต้องให้เวลากับลูก เลี้ยงเขาให้ดี ให้การศึกษาและอบรมให้เป็นพลเรือนที่ดีต่อไป ความที่เป็นคุณแม่ที่รักลูกมาก จึงไม่อยากพลาดโอกาสเห็นการเจริญเติบโต การพัฒนาของลูกๆ เพราะโอกาสนี้หมดไปก็ไม่สามารถเรียกคืนมาได้อีกแล้ว เพราะเด็กโตเร็วมาก จึงไม่พร้อมที่จะสละเวลาออกมาทำงานอย่างทุ่มเทเต็มที่จนกระทั่งลูกคนเล็กอายุใกล้ 10 ขวบจนเรามั่นใจว่าเมื่อเราผูกมัดตนเองกับลูกค้าได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยได้แล้ว และเราจะสามารถให้ได้ทั้งแรงกาย แรงใจ แรงสมอง พร้อมความทุ่มเท ประกอบกับกำลังใจที่ได้รับจากท่านกงสุลใหญ่สมัยนั้นคือท่าน ดร. ชัยยงค์ สัจจิพานนท์ ให้มาทำกิจการบริการช่วยเหลือนักเรียนไทยที่มาเรียนในออสเตรเลีย จึงกล้าๆตัดสินใจเปิดบริษัทตั้งแต่ปี คศ 1997  เป็นต้นมา การทำงานด้านบริการที่ทำด้วยใจรัก ต้องอาศัยความเสียสละและการทุ่มเทมาก จำได้ว่าสมัยก่อนต้องสลับกับแฟน (พี่คริส) ในการเปิดที่ทำงาน รับส่งลูก หุงหาอาหารให้ลูกทาน ประกอบกับสอนการบ้านให้เขาเรียนดีที่โรงเรียน ขณะเดียวกันกับต้องดูแลงานของลูกค้าไม่ให้ขาดตกบกพร่อง มีสถาบันที่ต้องคอยประสานงานให้ดี พร้อมกับ train ลูกน้อง สอนงานให้ สร้างงานสร้างคนมามากต่อมากแล้ว ถามว่าเหนื่อไหม คำตอบคือเหนื่อยแน่นอน หากคนเราตั้งใจทำงาน ไม่มีคำว่าไม่เหนื่อยอะค่ะ แต่จะเอาดีทั้งชีวิตครอบครัวและชีวิตงานไปในเวลาเดียวกันนั้น ไม่ใช่สิ่งที่ทำได้ง่ายๆเลย แต่คุณหมอวีซ่าโชคดีมากที่งานก็ไปได้ดี สามีดีมาก ลูกๆก็ได้ดี ส่งผลให้การทำงานก็มีความสุขกับลูกค้าเราไปด้วย

เวลาผ่านไปเร็วมาก บริษัท  CP Education & Migration Service ที่ภายหลังเปลี่ยนชื่อมาเป็น CP International Education & Migration Centre เนื่องจากเราได้ดึงเอาการศึกษาประเทศอื่นๆ เช่น USA, UK, Canada, Singapore, Japan เข้ามาเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าของเรามากขึ้นเป็น international education hub นั่นเอง ก็ยังมีความสุขกับงาน และรักลูกค้าทุกคน อย่างที่เวลาฝึกอบรมหรือสอนทีมงาน ก็มักจะสอนให้เขาถือว่าลูกค้าเป็นญาติตน เป็นลูกหลานพี่น้องของเราเอง เราอยากให้ญาติเราสำเร็จอย่างไร ก็ทำอย่างนั้นให้ลูกค้านั่นเอง!

cpinternationao.com ก็เป็นผลงานของพนักงานรุ่นใหม่ของเราที่น่าภูมิใจมากนะคะ

คุณหมอวีซ่าอยากให้คนไทยเรารักกัน อย่าไปอิจฉาริษยาคนอื่นเขา เราทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด เดินทางสายกลาง อยู่อย่างพอเพียง อย่างที่พ่อหลวงท่านสอนไว้ เป็นวิถีความคิดและการดำเนินชีวิตที่ดีที่สุดอยู่แล้ว หากเราทำงานดี คิดดี ทำดี ลูกค้าไหลหลั่งเข้ามาอย่างไม่หยุดยั้ง แทบไม่ต้องไปให้ร้ายคนอื่นเขาเพื่อดึงลูกค้า ไม่มีความจำเป็นเลยค่ะ

ขอให้ทุกท่านมั่นใจได้เลย คุณหมอวีซ่าก็ยังทำงานอยู่กับทีมซีพีฯอยู่เหมือนเดิม ยังรักลูกค้า และลูกๆหลานๆของลูกค้าทุกคน บ้างก็ดูแลกันมาตั้งแต่เรียนตรี โท จนจบแต่งงาน มีลูก อุ้มลูกแก้มยุ้ยมาให้กอดก็มากมายจนนับไม่ถ้วนแล้ว เมื่อได้กอดเด็กๆ ได้หอมแก้มเขา เล่นกับเขา ชีวิตคุณหมอวีซ่าเพียงแค่นี้ ก็ถือว่ามีความสุขมากแล้วค่ะ ไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่านี้เลย เงินทองมีมากมายให้กอบโกยกันได้ไม่หมด แต่สุขภาพที่ดี และความสุขทางกายทางใจเล็กๆน้อยๆหลายอย่างนั้น ต่อให้มีเงินมากมายก่ายกองก็ซื้อกันไม่ได้ค่ะ
เอาหล่ะค่ะ อารัมภบทมามากละ คุณหมอวีซ่าอยากถือโอกาสปีใหม่นี้ แนะนำทีมงานที่ซิดนีย์สักครั้งว่าปัจจุบันใครเป็นใคร เวลาเข้ามาพบจะได้ทักทายกันถูกนะคะ ทีมงานน่ารัก friendly และตั้งใจทำงานด้วยใจกันทุกคนเลยค่ะ

เริ่มกันที่:
จัสติน (Justine Wang)เป็น Office Manager   และเป็นทั้งหุ้นส่วนและผู้ช่วยมือหนึ่งของคุณหมอวีซ่าประจำที่ออฟฟิศซิดนีย์ justine@cpinter.com.au (โดยเขียนเป็นภาษาอังกฤษนะคะ)

พี่โจ (Joe Busababan)เป็น Migration Manager เป็นทั้งผู้ช่วยและหุ้นส่วนอีกคนหนึ่งของคุณหมอวีซ่าที่มาดูแลทางด้านวีซ่าภายใต้ supervision ของคุณหมอวีซ่าโดยตรง joe@cpinter.com.au ก็ได้ค่ะ

พี่ตาล (Tarn) Finance Manager  ดูแลการเงินและบัญชี

พี่ตาลสาวหน้าหวานทำหน้าที่เป็น Finance Manager ประจำออฟฟิศซิดนีย์  พี่ตาลจบ Bachelor of Accounting มาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเคยทำงานกับบริษัทปูนซีเมนต์ไทยก่อนที่จะมาเรียน  Advanced Diploma of Accounting ที่TAFE  และหลังจากเรียนจบก็สมัครพีอาร์โดยใช้ทักษะทางด้านบัญชียื่น และในปัจจุบันนี้ก็ได้เป็นซิติเซ่นแล้วเรียบร้อย  และพี่ตาลก็สมัครสอบเป็น Justice of Peace ประจำรัฐ NSW ผ่านมาเรียบร้อย   พี่ตาลถือเป็นพี่ๆที่น้องๆให้ความเคารพ และเป็นที่ปรึกษาที่ดีประจำออฟฟิศค่ะ

พี่ตั๊ก(Tug)  –  Education Manager ดูแลฝ่ายการศึกษาและวีซ่านักเรียน  
Tug CP Sydney

พี่เมิร์ฟ (Murf)Education Consultant/ Migration Agent Assistant
murf@cpinter.com.au ได้เลยค่ะ

พี่ป๊อป (Pop) Administrative Coordinator ที่ป๊อปจริงๆ
pop@cpinter.com.au ปัจจุบันพี่ป๊อปยังไปเรียนหลักสูตร CPA ต่อเนื่องภายใต้ supervision ของพี่คริส อีกไม่นาน ก็จะมีดาวรุ่ง CPA Australia เกิดอีกหนึ่งดวงที่ซีพีฯแล้วนะคะ

พี่ต๊อบ (Tob)Marketing/ Language Services Coordinator ไม่มีงานไหนที่ต๊อบไม่รับทำ นอกจากจะขยันแล้ว ยังยิ้มหวานอย่างน่ารักอีกด้วย
tob@cpinter.com.au พี่ต๊อบยินดีช่วยเสมอค่ะ

แนะนำตัวกันหอมปากหอมคอนะคะ แต่ที่คุณหมอวีซ่าเขียนมาทั้งหมดก็ไม่ได้หมายความว่า คุณหมอวีซ่าจะไม่ช่วยทำงานแล้วนะคะ  คุณหมอวีซ่าต้องการให้น้องๆเหล่านี้ได้ออกมาแสดงฝีมือ โดยมีคุณหมอวีซ่าเป็นพี่เลี้ยงช่วยอยู่เบื้องหลัง อนึ่ง คุณหมอวีซ่าเองจำเป็นต้องเดินทางบ่อย ในบางครั้งจึงอาจจะลำบากในการดูแลและประจำอยู่เพียง office ใด office หนึ่ง  น้องๆเหล่านี้จึงเหมือนเป็นผู้ช่วยคุณหมอวีซ่ายินดีช่วยเหลือท่านผู้อ่านทุกท่านค่ะ

นับแต่เปิดต้นปีมา ค่าสมัครวีซ่าหลายๆตัวก็ขึ้นตาม เช่นเดียวกับวีซ่าแต่งงานที่ขึ้นมาเป็น $3975 จริงอยู่ว่าค่าสมัครวีซ่าแต่งงาน (ในประเทศ) ขึ้นมาเยอะมาก แต่ก็นับว่าเป็นวีซ่าอีกตัวหนึ่งที่มีความแน่นอน ถึงแม้ปัจจุบันว่าจะรอนานถึง 13 เดือน แต่ว่าผู้ที่รอวีซ่าตัวนี้ออกในตอนถือ BVA (บริดจิ้งวีซ่า A) ก็ไม่มีคอนดิชั่นในเรื่องของการทำงาน สามารถทำงานได้อย่างไม่จำกัด แถมหลังจากยื่นวีซ่าแล้วก็สามารถได้รับสิทธิเมดิแคร์โดยทันที  ขอเพียงแค่มีหลักฐานความสัมพันธ์ตามที่กำหนด เห็นมั้ยคะว่าคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม   และในวันพฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์นี้ เป็นงานประจำปี CP’s Valentine Day Partner Visa Seminar  ที่ทางซีพีฯจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยได้รับเกียรติจากสถานกงสุลใหญ่ประจำ นครซิดนีย์อีกครั้งหนึ่ง มาให้บริการจดทะเบียนสมรสเคลื่อนที่ภายในวันงาน  นอกจากนี้ยังสามารถมาร่วมฟังสัมมนาสนุกๆ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการเตรียมงานแต่งงาน และร่วมอัพเดทในเรื่องของวีซ่าคู่ครอง ใครมีปัญหาไม่ว่าจะเป็นเรื่องหย่ามาแล้ว เคยสปอนเซอร์มาแล้ว หรือใครที่วีซ่ากำลังจะหมดแต่ยังเก็บหลักฐานไม่พอ  ต้องไม่พลาดมาร่วมงาน Partner Visa Seminar with CP Sydney ในวันพฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ 2013 ในเวลา 13.00 – 17.00 ที่โรงแรม Radisson Hotel & Suites 72 Liverpool Street, Sydney  นอกจากนี้คู่รักที่จดทะเบียนสมรสภายในงาน ยังร่วมลุ้น honeymoon package ไม่ว่าจะเป็น hotel voucher หรือ romantic dinner  สำรองที่นั่งหรือจองจดทะเบียนสมรสภายในงานที่ tob@cpinter.com.au, pop@cpinter.com.au หรือโทร 02-92678522  หรือจะฝากข้อความไว้ที่ www.facebook.com/cpsyd ก็ได้ค่ะ

พบกันใหม่ในฉบับ Valentine หวานฉ่ำฉบับหน้านะคะ

มีคำถามเกี่ยวกับการสมัครหรือสถานะวีซ่าออสเตรเลียของคุณ? ต้องการสมัครเพื่อศึกษาต่อ ทำงาน หรืออาศัยอยู่ในออสเตรเลีย? สามารถขอคำแนะนำจากทีมคุณหมอวีซ่าได้ที่: